Demon Age : Deep Blue
3 posters
หน้า 3 จาก 3
หน้า 3 จาก 3 • 1, 2, 3
Re: Demon Age : Deep Blue
-มาสคาเรด
-ฟอลเลนไนท์ ฟาลาด
เธอเอาดาบจี้คอหอยของ มาสคาเรด
"อย่าเข้ามาใกล้ข้ากว่านี้ดีกว่า พ่อหนุ่มน้อย"
"แล้วก็นายอัศวิน ต้องขอชื่นชมในความกล้าที่กล้าเผชิญหน้ากับพวกมัน"
"เอาเถอะ...ดูจากชุดของเจ้าแล้วคงเป็นพวกอัศวินของ Loric's แน่คงได้เจอกับอะไรมาเยอะสินะ"
"ข้า...มีนามว่า Hammer อย่างน้อยข้าก็อยากให้พวกเจ้าเรียกข้าแบบนั้น"
เธอว่างดาบลง แล้วหาอะไรที่พอจะติดไฟมาสุมๆเพื่อก่อไฟ ก่อนจะนั่งลงบนกับพื้น
"มืดแล้วที่นี้จะอันตรายมาก มีอะไรที่น่ากลัวกว่าเจ้าพวกโกเล็มนั้นเยอะ แล้วก็นายอัศวินนายถามว่าทำไมข้าถึงไม่มีบาดแผลใช่ไหม? นี่คือคำสาปคำสาปที่ไม่มีทางแก้"
แล้วก็เงียบไม่พูดอะไรพลางทำหน้าตาเศร้าพร้อมกับลูบแขนที่มีลวดลายนั้น ของเธอ
-ฟอลเลนไนท์ ฟาลาด
เธอเอาดาบจี้คอหอยของ มาสคาเรด
"อย่าเข้ามาใกล้ข้ากว่านี้ดีกว่า พ่อหนุ่มน้อย"
"แล้วก็นายอัศวิน ต้องขอชื่นชมในความกล้าที่กล้าเผชิญหน้ากับพวกมัน"
"เอาเถอะ...ดูจากชุดของเจ้าแล้วคงเป็นพวกอัศวินของ Loric's แน่คงได้เจอกับอะไรมาเยอะสินะ"
"ข้า...มีนามว่า Hammer อย่างน้อยข้าก็อยากให้พวกเจ้าเรียกข้าแบบนั้น"
เธอว่างดาบลง แล้วหาอะไรที่พอจะติดไฟมาสุมๆเพื่อก่อไฟ ก่อนจะนั่งลงบนกับพื้น
"มืดแล้วที่นี้จะอันตรายมาก มีอะไรที่น่ากลัวกว่าเจ้าพวกโกเล็มนั้นเยอะ แล้วก็นายอัศวินนายถามว่าทำไมข้าถึงไม่มีบาดแผลใช่ไหม? นี่คือคำสาปคำสาปที่ไม่มีทางแก้"
แล้วก็เงียบไม่พูดอะไรพลางทำหน้าตาเศร้าพร้อมกับลูบแขนที่มีลวดลายนั้น ของเธอ
Slibter- จำนวนข้อความ : 41
Join date : 09/03/2013
Re: Demon Age : Deep Blue
-มาสคาเรด
เธอเอาดาบจี้คอหอยของ มาสคาเรด
"อย่าเข้ามาใกล้ข้ากว่านี้ดีกว่า พ่อหนุ่มน้อย"
"แล้วก็นายอัศวิน ต้องขอชื่นชมในความกล้าที่กล้าเผชิญหน้ากับพวกมัน"
"เอาเถอะ...ดูจากชุดของเจ้าแล้วคงเป็นพวกอัศวินของ Loric's แน่คงได้เจอกับอะไรมาเยอะสินะ"
"ข้า...มีนามว่า Hammer อย่างน้อยข้าก็อยากให้พวกเจ้าเรียกข้าแบบนั้น"
เธอว่างดาบลง แล้วหาอะไรที่พอจะติดไฟมาสุมๆเพื่อก่อไฟ ก่อนจะนั่งลงบนกับพื้น
"มืดแล้วที่นี้จะอันตรายมาก มีอะไรที่น่ากลัวกว่าเจ้าพวกโกเล็มนั้นเยอะ แล้วก็นายอัศวินนายถามว่าทำไมข้าถึงไม่มีบาดแผลใช่ไหม? นี่คือคำสาปคำสาปที่ไม่มีทางแก้"
แล้วก็เงียบไม่พูดอะไรพลางทำหน้าตาเศร้าพร้อมกับลูบแขนที่มีลวดลายนั้น ของเธอ
"เก็บของมีคมก่อนเถอะคุณผู้หญิง ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องมาใช้สิ่งนี้ตอนนี้" พูดพร้อมกับเอามือปัดดาบลงช้า ๆ แล้วเดินถอยออกมา
"เกิดอะไรขึ้นที่นี่ โกเลมพวกนั้นคืออะไร แล้วหินที่ใช้เสริมพลังนั่นล่ะ ถ้าไม่มากเกินไป รบกวนช่วยตอบคำถามด้วย" กลับไปยืนพิงกำแพงที่เดิม
Nutt- จำนวนข้อความ : 49
Join date : 09/03/2013
Re: Demon Age : Deep Blue
-ฟอลเลนไนท์ ฟาลาด
เธอเอาดาบจี้คอหอยของ มาสคาเรด
"อย่าเข้ามาใกล้ข้ากว่านี้ดีกว่า พ่อหนุ่มน้อย"
"แล้วก็นายอัศวิน ต้องขอชื่นชมในความกล้าที่กล้าเผชิญหน้ากับพวกมัน"
"เอาเถอะ...ดูจากชุดของเจ้าแล้วคงเป็นพวกอัศวินของ Loric's แน่คงได้เจอกับอะไรมาเยอะสินะ"
"ข้า...มีนามว่า Hammer อย่างน้อยข้าก็อยากให้พวกเจ้าเรียกข้าแบบนั้น"
เธอว่างดาบลง แล้วหาอะไรที่พอจะติดไฟมาสุมๆเพื่อก่อไฟ ก่อนจะนั่งลงบนกับพื้น
"มืดแล้วที่นี้จะอันตรายมาก มีอะไรที่น่ากลัวกว่าเจ้าพวกโกเล็มนั้นเยอะ แล้วก็นายอัศวินนายถามว่าทำไมข้าถึงไม่มีบาดแผลใช่ไหม? นี่คือคำสาปคำสาปที่ไม่มีทางแก้"
แล้วก็เงียบไม่พูดอะไรพลางทำหน้าตาเศร้าพร้อมกับลูบแขนที่มีลวดลายนั้น ของเธอ
"ตามที่มาสคาเรดว่านั่นล่ะ ช่วยอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ให้ฟังที ถ้าไม่รบกวนเกินไปก็รวมไปถึงรอยอักขระบนตัวเธอด้วย มันมีที่มาที่ไปยังไง? เกี่ยวข้องกับคำสาปที่เธอพูดถึงรึเปล่า?" นั่งรอฟังอีกฝ่ายตอบข้อสงสัย
Re: Demon Age : Deep Blue
-ฟอลเลนไนท์ ฟาลาด
-มาสคาเรด
เธอมองที่พวกคุณทั้งสอง
"เรื่องนี่เป็นความลับเกี่ยวกับการทดลองของพวกชนชั้นสูงของที่นี้ แต่ว่าตอนนี้ก็คงไม่มีประโยชน์ที่จะปกปิดต่อไป โกเล็มพวกนั้น...ก่อนหน้านั้นก็เป็นคนธรรมดาทั่วๆไป แต่หลังจากที่พวกเขาเริ่มศึกษาศาตร์ต่างๆมากเกินไปร่างกาย จิตใจ แม้กระทั่งความนึกคิดของพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป จะเรียกว่าคำสาปก็คงไม่ถูกต้องต้องเรียกว่าเป็นความอยากรู้อยากเห็นที่ไร้เดียงสาล่ะนะ หินที่เจ้าหน้ากากใช้เองก็เช่นกันมันเป็นนวัตกรรมของที่นี่เป็นคนสร้างขึ้น มันถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการต่อกรกับพวกปีศาจอย่างที่พวกนายเห็นนั้นแหละ จะให้อธิบายอย่างละเอียดข้าเองก็ไม่ค่อยรู้มากเท่าไหร่แต่...ที่ข้ารู้ดีที่สุดก็เหมือนจะเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของที่นี่ Tracery มันเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่ข้าเองก็ไม่ได้เต็มใจรับมันมาเท่าไหร่"
เธอขอยื้มดาบของ -ฟอลเลนไนท์ ฟาลาด แล้วเอามือข้างนนึ่งรูดกับคมดาบ จนเลือดไหลท่วมมือบาดแผลเปิดกว้างอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่นานมันก็ค่อยๆรักษาตัวเองและเร็วขึ้นจนปิดสนิท
"อย่างที่เห็น นี่คือหนึ่งในพลังของ Bringe Stone Shard ด้วยการฝังมันลงภายในมนุษย์โดยตรงไม่ต้องบีบมันให้อาวุธ แต่สามารถดึงมันออกมาได้ทุกทีทุกเวลาไร้ขีดกำกัด เพียงแต่มันจะทำให้นายรู้สึกเหมือนเป็นตัวประหลาดเพราะไอ้ลวดลายพวกนี้เพราะงั้นมันถึงได้ชื่อว่า Tracery และมันยังสามารถเปลี่ยนรูปแบบพลังงานจากแสงสีฟ้าแบบที่เจ้าหน้ากากใช้ เป็นไฟฟ้า ไฟ ลม หรืออะไรก็แล้วแต่ที่มีการศึกษาและมีการจดเป็นวิธีการแปลสภาพมัน จะเรียกว่าเป็นการเล่นแร่แปลธาตุก็ได้"
"แล้วพวกนาย...นายมาทำอะไรในที่แบบนี้ เจ้าหน้ากาก?"
"แล้วทำไมอัศวินของราชอาณาจักรถึงไปร่วมมือกับคนแปลกหน้า?"
"ข้าไม่ได้สงสัยพวกเจ้าหรอกเพียงแต่ บางครั้งข้าเองก็อยากรู้ที่ไปที่มาของคนที่ไม่ได้รู้สึกรังเกียจลวดลายประหลาดบนตัวข้า แถมยังเป็นห่วงคนอื่นมากกว่าตัวเองอีก คนแบบนี้รู้จักไว้ก็ไม่เสียหายจริงไหม?"
-มาสคาเรด
เธอมองที่พวกคุณทั้งสอง
"เรื่องนี่เป็นความลับเกี่ยวกับการทดลองของพวกชนชั้นสูงของที่นี้ แต่ว่าตอนนี้ก็คงไม่มีประโยชน์ที่จะปกปิดต่อไป โกเล็มพวกนั้น...ก่อนหน้านั้นก็เป็นคนธรรมดาทั่วๆไป แต่หลังจากที่พวกเขาเริ่มศึกษาศาตร์ต่างๆมากเกินไปร่างกาย จิตใจ แม้กระทั่งความนึกคิดของพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป จะเรียกว่าคำสาปก็คงไม่ถูกต้องต้องเรียกว่าเป็นความอยากรู้อยากเห็นที่ไร้เดียงสาล่ะนะ หินที่เจ้าหน้ากากใช้เองก็เช่นกันมันเป็นนวัตกรรมของที่นี่เป็นคนสร้างขึ้น มันถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการต่อกรกับพวกปีศาจอย่างที่พวกนายเห็นนั้นแหละ จะให้อธิบายอย่างละเอียดข้าเองก็ไม่ค่อยรู้มากเท่าไหร่แต่...ที่ข้ารู้ดีที่สุดก็เหมือนจะเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของที่นี่ Tracery มันเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่ข้าเองก็ไม่ได้เต็มใจรับมันมาเท่าไหร่"
เธอขอยื้มดาบของ -ฟอลเลนไนท์ ฟาลาด แล้วเอามือข้างนนึ่งรูดกับคมดาบ จนเลือดไหลท่วมมือบาดแผลเปิดกว้างอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่นานมันก็ค่อยๆรักษาตัวเองและเร็วขึ้นจนปิดสนิท
"อย่างที่เห็น นี่คือหนึ่งในพลังของ Bringe Stone Shard ด้วยการฝังมันลงภายในมนุษย์โดยตรงไม่ต้องบีบมันให้อาวุธ แต่สามารถดึงมันออกมาได้ทุกทีทุกเวลาไร้ขีดกำกัด เพียงแต่มันจะทำให้นายรู้สึกเหมือนเป็นตัวประหลาดเพราะไอ้ลวดลายพวกนี้เพราะงั้นมันถึงได้ชื่อว่า Tracery และมันยังสามารถเปลี่ยนรูปแบบพลังงานจากแสงสีฟ้าแบบที่เจ้าหน้ากากใช้ เป็นไฟฟ้า ไฟ ลม หรืออะไรก็แล้วแต่ที่มีการศึกษาและมีการจดเป็นวิธีการแปลสภาพมัน จะเรียกว่าเป็นการเล่นแร่แปลธาตุก็ได้"
"แล้วพวกนาย...นายมาทำอะไรในที่แบบนี้ เจ้าหน้ากาก?"
"แล้วทำไมอัศวินของราชอาณาจักรถึงไปร่วมมือกับคนแปลกหน้า?"
"ข้าไม่ได้สงสัยพวกเจ้าหรอกเพียงแต่ บางครั้งข้าเองก็อยากรู้ที่ไปที่มาของคนที่ไม่ได้รู้สึกรังเกียจลวดลายประหลาดบนตัวข้า แถมยังเป็นห่วงคนอื่นมากกว่าตัวเองอีก คนแบบนี้รู้จักไว้ก็ไม่เสียหายจริงไหม?"
Slibter- จำนวนข้อความ : 41
Join date : 09/03/2013
Re: Demon Age : Deep Blue
-ฟอลเลนไนท์ ฟาลาด
เธอมองที่พวกคุณทั้งสอง
"เรื่องนี่เป็นความลับเกี่ยวกับการทดลองของพวกชนชั้นสูงของที่นี้ แต่ว่าตอนนี้ก็คงไม่มีประโยชน์ที่จะปกปิดต่อไป โกเล็มพวกนั้น...ก่อนหน้านั้นก็เป็นคนธรรมดาทั่วๆไป แต่หลังจากที่พวกเขาเริ่มศึกษาศาตร์ต่างๆมากเกินไปร่างกาย จิตใจ แม้กระทั่งความนึกคิดของพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป จะเรียกว่าคำสาปก็คงไม่ถูกต้องต้องเรียกว่าเป็นความอยากรู้อยากเห็นที่ไร้เดียงสาล่ะนะ หินที่เจ้าหน้ากากใช้เองก็เช่นกันมันเป็นนวัตกรรมของที่นี่เป็นคนสร้างขึ้น มันถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการต่อกรกับพวกปีศาจอย่างที่พวกนายเห็นนั้นแหละ จะให้อธิบายอย่างละเอียดข้าเองก็ไม่ค่อยรู้มากเท่าไหร่แต่...ที่ข้ารู้ดีที่สุดก็เหมือนจะเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของที่นี่ Tracery มันเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่ข้าเองก็ไม่ได้เต็มใจรับมันมาเท่าไหร่"
เธอขอยื้มดาบของ -ฟอลเลนไนท์ ฟาลาด แล้วเอามือข้างนนึ่งรูดกับคมดาบ จนเลือดไหลท่วมมือบาดแผลเปิดกว้างอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่นานมันก็ค่อยๆรักษาตัวเองและเร็วขึ้นจนปิดสนิท
"อย่างที่เห็น นี่คือหนึ่งในพลังของ Bringe Stone Shard ด้วยการฝังมันลงภายในมนุษย์โดยตรงไม่ต้องบีบมันให้อาวุธ แต่สามารถดึงมันออกมาได้ทุกทีทุกเวลาไร้ขีดกำกัด เพียงแต่มันจะทำให้นายรู้สึกเหมือนเป็นตัวประหลาดเพราะไอ้ลวดลายพวกนี้เพราะงั้นมันถึงได้ชื่อว่า Tracery และมันยังสามารถเปลี่ยนรูปแบบพลังงานจากแสงสีฟ้าแบบที่เจ้าหน้ากากใช้ เป็นไฟฟ้า ไฟ ลม หรืออะไรก็แล้วแต่ที่มีการศึกษาและมีการจดเป็นวิธีการแปลสภาพมัน จะเรียกว่าเป็นการเล่นแร่แปลธาตุก็ได้"
"แล้วพวกนาย...นายมาทำอะไรในที่แบบนี้ เจ้าหน้ากาก?"
"แล้วทำไมอัศวินของราชอาณาจักรถึงไปร่วมมือกับคนแปลกหน้า?"
"ข้าไม่ได้สงสัยพวกเจ้าหรอกเพียงแต่ บางครั้งข้าเองก็อยากรู้ที่ไปที่มาของคนที่ไม่ได้รู้สึกรังเกียจลวดลายประหลาดบนตัวข้า แถมยังเป็นห่วงคนอื่นมากกว่าตัวเองอีก คนแบบนี้รู้จักไว้ก็ไม่เสียหายจริงไหม?"
"ตอนนี้ฉันก็เป็นแค่อัศวินธรรมดา ไม่ใช่ของอาณาจักรอะไรนั่นแล้วล่ะ อาณาจักรของฉันถูกทำลายราบไปแล้ว อาณาจักรที่ศรัทธาในพระเจ้ามากกว่าสิ่งไหนๆ สุดท้ายแล้วสิ่งที่ได้กลับเป็นเพียงเถ้าธุลี ฉันในตอนนี้เลิกศรัทธาในพระเจ้าแล้วล่ะ เป้าหมายในตอนนี้ก็แค่การออกเดินทางไปเพื่อหาสาเหตุการล่มสลายของอารยธรรมในดินแดนนี้เท่านั้น" หยิบดาบที่ Hammer ยืมไปคืนมาพร้อมทั้งใช้ผ้าเช็ดคราบเลือดบนตัวดาบ
"เธอบอกว่าการรักษาที่เหลือเชื่อของเธอเกิดจากการฝังหิน Bringe Stone Shard ลงในร่างสินะ? โทษทีนะ แต่ฉันอยากจะถามอะไรเพิ่มอีกหน่อย ในการทดลองที่ว่านั่น เธอเองก็เป็นผลลัพธ์ที่ได้จากการทดลองงั้นสิ ? ถ้าถามว่าทำไมฉันถึงคิดแบบนี้ ก็เพราะฉันคิดว่าคงไม่มีคนปกติที่ไหนเอาหินประหลาดไปยัดใส่ในร่างของตัวเองหรอก แล้วการทดลองที่ว่านั่นเริ่มจากส่วนไหนของดินแดนนี้ ? ใครเป็นคนคิดค้น ช่วยบอกให้ละเอียดกว่านี้หน่อยได้มั้ย? ไม่แน่มันอาจจะเกี่ยวข้องอะไรกับการที่ดินแดนนี้ล่มสลายลงก็ได้"
Re: Demon Age : Deep Blue
-มาสคาเรด
เธอมองที่พวกคุณทั้งสอง
"เรื่องนี่เป็นความลับเกี่ยวกับการทดลองของพวกชนชั้นสูงของที่นี้ แต่ว่าตอนนี้ก็คงไม่มีประโยชน์ที่จะปกปิดต่อไป โกเล็มพวกนั้น...ก่อนหน้านั้นก็เป็นคนธรรมดาทั่วๆไป แต่หลังจากที่พวกเขาเริ่มศึกษาศาตร์ต่างๆมากเกินไปร่างกาย จิตใจ แม้กระทั่งความนึกคิดของพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป จะเรียกว่าคำสาปก็คงไม่ถูกต้องต้องเรียกว่าเป็นความอยากรู้อยากเห็นที่ไร้เดียงสาล่ะนะ หินที่เจ้าหน้ากากใช้เองก็เช่นกันมันเป็นนวัตกรรมของที่นี่เป็นคนสร้างขึ้น มันถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการต่อกรกับพวกปีศาจอย่างที่พวกนายเห็นนั้นแหละ จะให้อธิบายอย่างละเอียดข้าเองก็ไม่ค่อยรู้มากเท่าไหร่แต่...ที่ข้ารู้ดีที่สุดก็เหมือนจะเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของที่นี่ Tracery มันเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่ข้าเองก็ไม่ได้เต็มใจรับมันมาเท่าไหร่"
เธอขอยื้มดาบของ -ฟอลเลนไนท์ ฟาลาด แล้วเอามือข้างนนึ่งรูดกับคมดาบ จนเลือดไหลท่วมมือบาดแผลเปิดกว้างอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่นานมันก็ค่อยๆรักษาตัวเองและเร็วขึ้นจนปิดสนิท
"อย่างที่เห็น นี่คือหนึ่งในพลังของ Bringe Stone Shard ด้วยการฝังมันลงภายในมนุษย์โดยตรงไม่ต้องบีบมันให้อาวุธ แต่สามารถดึงมันออกมาได้ทุกทีทุกเวลาไร้ขีดกำกัด เพียงแต่มันจะทำให้นายรู้สึกเหมือนเป็นตัวประหลาดเพราะไอ้ลวดลายพวกนี้เพราะงั้นมันถึงได้ชื่อว่า Tracery และมันยังสามารถเปลี่ยนรูปแบบพลังงานจากแสงสีฟ้าแบบที่เจ้าหน้ากากใช้ เป็นไฟฟ้า ไฟ ลม หรืออะไรก็แล้วแต่ที่มีการศึกษาและมีการจดเป็นวิธีการแปลสภาพมัน จะเรียกว่าเป็นการเล่นแร่แปลธาตุก็ได้"
"แล้วพวกนาย...นายมาทำอะไรในที่แบบนี้ เจ้าหน้ากาก?"
"แล้วทำไมอัศวินของราชอาณาจักรถึงไปร่วมมือกับคนแปลกหน้า?"
"ข้าไม่ได้สงสัยพวกเจ้าหรอกเพียงแต่ บางครั้งข้าเองก็อยากรู้ที่ไปที่มาของคนที่ไม่ได้รู้สึกรังเกียจลวดลายประหลาดบนตัวข้า แถมยังเป็นห่วงคนอื่นมากกว่าตัวเองอีก คนแบบนี้รู้จักไว้ก็ไม่เสียหายจริงไหม?"
"ไม่ต้องใส่ใจเรื่องของฉันมากก็ได้ ไม่ได้มีตัวตนที่สำคัญอะไรนักหรอกนะ เป็นแค่นักท่องเที่ยวที่บังเอิญมาอยู่ที่นี่ก็เท่านั้นเอง ถ้าสายตาของเธอเห็นว่าคนที่ยืนอยู่ตรงนี้คือศัตรูแล้วจะฆ่าให้ตายก็เชิญเลย แต่ว่าถ้าทำแบบนั้นลงไปก็คงไม่จบเรื่องง่าย ๆ แถมไม่มีประโยชน์อะไรเลยอีกต่างหาก ก็ลองไตร่ตรองดูเอาเองนะคุณผู้หญิง" หยิบไพ่ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อด้านในออกมาหนึ่งใบจากนั้นก็เก็บกลับเข้าที่เดิม
"โฮ่ . . ก็คงจะดีไม่น้อย" บ่นพึมพำโดยที่คนอื่นฟังแล้วไม่รู้ว่าพูดถึงอะไร
Nutt- จำนวนข้อความ : 49
Join date : 09/03/2013
Re: Demon Age : Deep Blue
-ฟอลเลนไนท์ ฟาลาด
"เริ่มจากตรงไหนงั้นหรอ? ข้าเองก็บอกไม่ได้หรอกแต่ข้าจะเล่าในส่วนที่ข้ารู้ก็แล้วกัน เท่าที่ข้ารู้มันเริ่มจากที่นี้นั้นแหละ เหล่านักทดลองของที่นี้เริ่มการทดลองมากกว่าการสร้างหหินก็คือ การฝังมันลงมนุษย์โดยตรง แต่ผลที่ออกมานับได้ว่าล้มเหลวเลยละ แต่ก็มีบางคนก็สามารถรอดมาได้แต่ก็ได้บางอย่างมาแทนละนะ"
"ทำไมข้าถึงเข้ารวมการทดลองนะหรอ? ก็คงไม่อยากตายนั้นแหละ ใครๆก็อยากเป็นอมตะ แต่พอเริ่มเห็นคนที่ตายเพราะเอาของแบบนี้มาไว้ในร่างกายก็เริ่มกลัวเหมือนกันนะ แต่จะให้เล่าถึงวิธีก็คงไม่ได้หรอกข้า...หลับ"
"ึคนที่คิดค้น? หมายถึง Tracery สินะจะว่ายังไงดีละ ก็คงเป็น Logan BIGHAT นั้นแหละ จะเล่าให้ระเอียดเลยก็คงไม่ได้เพราะรู้จักเขาในฐานะของผู้ทดลอดกับหนูทดลอง พอหลังจากที่ข้ารอดมาพวกเขาก็เอาข้าไปฝึกศาสตร์ต่างๆ ทั้งอาวุธทั้งเวทมนต์เรียกได้ว่าเป็นอาวุธที่มีชีวิตเลยละ แต่ทุกอย่างก็หยุดลงเพราะ Yoel นั้นแหละข้าเองก็ไม่รู้อะไรไปมากกว่านี้นักหรอก"
-มาสคาเรด
เธอพูดคุยกับ ฟาลาดถึงเรื่องต่างๆในขณะที่คุณได้แต่นั่งมอง
"ข้าได้รับความใส่ใจจากเจ้า เหตุใดข้าถึงไม่ละ? เจ้าหน้ากาก"
"โฮ่ . . ก็คงจะดีไม่น้อย? พูดถึงอะไรนะ?"
"เริ่มจากตรงไหนงั้นหรอ? ข้าเองก็บอกไม่ได้หรอกแต่ข้าจะเล่าในส่วนที่ข้ารู้ก็แล้วกัน เท่าที่ข้ารู้มันเริ่มจากที่นี้นั้นแหละ เหล่านักทดลองของที่นี้เริ่มการทดลองมากกว่าการสร้างหหินก็คือ การฝังมันลงมนุษย์โดยตรง แต่ผลที่ออกมานับได้ว่าล้มเหลวเลยละ แต่ก็มีบางคนก็สามารถรอดมาได้แต่ก็ได้บางอย่างมาแทนละนะ"
"ทำไมข้าถึงเข้ารวมการทดลองนะหรอ? ก็คงไม่อยากตายนั้นแหละ ใครๆก็อยากเป็นอมตะ แต่พอเริ่มเห็นคนที่ตายเพราะเอาของแบบนี้มาไว้ในร่างกายก็เริ่มกลัวเหมือนกันนะ แต่จะให้เล่าถึงวิธีก็คงไม่ได้หรอกข้า...หลับ"
"ึคนที่คิดค้น? หมายถึง Tracery สินะจะว่ายังไงดีละ ก็คงเป็น Logan BIGHAT นั้นแหละ จะเล่าให้ระเอียดเลยก็คงไม่ได้เพราะรู้จักเขาในฐานะของผู้ทดลอดกับหนูทดลอง พอหลังจากที่ข้ารอดมาพวกเขาก็เอาข้าไปฝึกศาสตร์ต่างๆ ทั้งอาวุธทั้งเวทมนต์เรียกได้ว่าเป็นอาวุธที่มีชีวิตเลยละ แต่ทุกอย่างก็หยุดลงเพราะ Yoel นั้นแหละข้าเองก็ไม่รู้อะไรไปมากกว่านี้นักหรอก"
-มาสคาเรด
เธอพูดคุยกับ ฟาลาดถึงเรื่องต่างๆในขณะที่คุณได้แต่นั่งมอง
"ข้าได้รับความใส่ใจจากเจ้า เหตุใดข้าถึงไม่ละ? เจ้าหน้ากาก"
"โฮ่ . . ก็คงจะดีไม่น้อย? พูดถึงอะไรนะ?"
Slibter- จำนวนข้อความ : 41
Join date : 09/03/2013
Re: Demon Age : Deep Blue
มาสคาเรด
เธอพูดคุยกับ ฟาลาดถึงเรื่องต่างๆในขณะที่คุณได้แต่นั่งมอง
"ข้าได้รับความใส่ใจจากเจ้า เหตุใดข้าถึงไม่ละ? เจ้าหน้ากาก"
"โฮ่ . . ก็คงจะดีไม่น้อย? พูดถึงอะไรนะ?"
"ไม่มีอะไรเป็นพิเศษหรอกคุณผู้หญิง อย่าได้ใส่ใจ" เดินออกไปที่ประตู
"ระหว่างนี้ฉันออกไปดูลาดเลาซักหน่อยดีกว่า ไม่ต้องตามมาหรอก นั่งพักกันอยู่ในบ้านนี่แหละ" ค่อย ๆ เดินออกไปข้างนอก
เดินสำรวจให้เงียบที่สุด พยายามเดินในที่ที่อับมุมมอง ลัดเลาะไปตามซากปรักหักพัง ให้ตัวเองถูกตรวจพบได้น้อยที่สุด สังเกตทุกความเคลื่อนไหว หากมีอะไรขยับหรือไม่น่าไว้ใจให้ซ่อนตัวให้เร็วที่สุด เซฟตัวเองจากอันตรายที่จะเกิดขึ้น
Nutt- จำนวนข้อความ : 49
Join date : 09/03/2013
Re: Demon Age : Deep Blue
-ฟอลเลนไนท์ ฟาลาด
"เริ่มจากตรงไหนงั้นหรอ? ข้าเองก็บอกไม่ได้หรอกแต่ข้าจะเล่าในส่วนที่ข้ารู้ก็แล้วกัน เท่าที่ข้ารู้มันเริ่มจากที่นี้นั้นแหละ เหล่านักทดลองของที่นี้เริ่มการทดลองมากกว่าการสร้างหหินก็คือ การฝังมันลงมนุษย์โดยตรง แต่ผลที่ออกมานับได้ว่าล้มเหลวเลยละ แต่ก็มีบางคนก็สามารถรอดมาได้แต่ก็ได้บางอย่างมาแทนละนะ"
"ทำไมข้าถึงเข้ารวมการทดลองนะหรอ? ก็คงไม่อยากตายนั้นแหละ ใครๆก็อยากเป็นอมตะ แต่พอเริ่มเห็นคนที่ตายเพราะเอาของแบบนี้มาไว้ในร่างกายก็เริ่มกลัวเหมือนกันนะ แต่จะให้เล่าถึงวิธีก็คงไม่ได้หรอกข้า...หลับ"
"ึคนที่คิดค้น? หมายถึง Tracery สินะจะว่ายังไงดีละ ก็คงเป็น Logan BIGHAT นั้นแหละ จะเล่าให้ระเอียดเลยก็คงไม่ได้เพราะรู้จักเขาในฐานะของผู้ทดลอดกับหนูทดลอง พอหลังจากที่ข้ารอดมาพวกเขาก็เอาข้าไปฝึกศาสตร์ต่างๆ ทั้งอาวุธทั้งเวทมนต์เรียกได้ว่าเป็นอาวุธที่มีชีวิตเลยละ แต่ทุกอย่างก็หยุดลงเพราะ Yoel นั้นแหละข้าเองก็ไม่รู้อะไรไปมากกว่านี้นักหรอก"
"ิการทดลอง กับ Yoel... งั้นหรอ"
"ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะ ตอนนี้พักผ่อนกันก่อนดีกว่า นี่ก็มืดแล้วด้วย เรื่องอาหารการกินคงต้องลองหาดูในบ้านก่อน ฉันก็ไม่มีอะไรติดตัวมาซะด้วยสิ" ว่าแล้วก็ลุกขึ้นยืนแล้วเริ่มเดินค้นหาของที่น่าจะเป็นประโยชน์ในบ้านโดยละเอียด
"ถ้ามีอะไรล่ะก็เรียกได้เลยนะ" พูดบอกทิ้งท้ายกับ Hammer
Re: Demon Age : Deep Blue
-มาสคาเรด
"คิดจะไปไหนกัน! เจ้าหน้ากาก"
เธอปาดาบของ ฟาลาด ผ่านคุณไปปักกับบานประตูก่อนที่คูณจะได้เดินออกไป
"ก็บอกแล้วนี่ ว่ากลางคืนนะมันอันตรายกว่ากลางวัน ถ้ายังรักชีวิตก็ช่วยอยู่ที่นี้จนกว่าจะมีแสง แต่ถ้าไม่ข้าเองก็คงได้แค่เตือนเจ้า"
-ฟอลเลนไนท์ ฟาลาด
"ข้าต้องขอโทษเจ้าด้วยที่ปาดาบของเจ้าแบบนั้น ข้าแค่...ชั่งเถอะ"
"อืม...จะว่ายังไงดี ข้าเองก็รู้จักกับ Yoel ในฐานะของหนูทดลองด้วยกัน คงไม่ได้พูดอะไรกันมากนักหรอก แต่หลังจากที่ข้าฟื้นข้าก็ถูกส่งไปตัวไปทันที เลยไม่ได้เจอเขาอีก แต่ข้ารู้ได้เลยว่านั้นคือเขาแน่ๆ"
"ไม่ต้องหาเพื่อข้าหรอก ต่อให้ข้ากินไปมันก็ไม่อิ่ม แล้วก็ไม่หิวด้วย"
เธอนั่งเงียบๆ มองกองไฟเล็กๆนั้น แล้วก็ค่อยๆหลับตาลง
"มันคงจะดีกว่านี้ ถ้าข้ายังมีพี่ชายอยู๋ด้วย"
"คิดจะไปไหนกัน! เจ้าหน้ากาก"
เธอปาดาบของ ฟาลาด ผ่านคุณไปปักกับบานประตูก่อนที่คูณจะได้เดินออกไป
"ก็บอกแล้วนี่ ว่ากลางคืนนะมันอันตรายกว่ากลางวัน ถ้ายังรักชีวิตก็ช่วยอยู่ที่นี้จนกว่าจะมีแสง แต่ถ้าไม่ข้าเองก็คงได้แค่เตือนเจ้า"
-ฟอลเลนไนท์ ฟาลาด
"ข้าต้องขอโทษเจ้าด้วยที่ปาดาบของเจ้าแบบนั้น ข้าแค่...ชั่งเถอะ"
"อืม...จะว่ายังไงดี ข้าเองก็รู้จักกับ Yoel ในฐานะของหนูทดลองด้วยกัน คงไม่ได้พูดอะไรกันมากนักหรอก แต่หลังจากที่ข้าฟื้นข้าก็ถูกส่งไปตัวไปทันที เลยไม่ได้เจอเขาอีก แต่ข้ารู้ได้เลยว่านั้นคือเขาแน่ๆ"
"ไม่ต้องหาเพื่อข้าหรอก ต่อให้ข้ากินไปมันก็ไม่อิ่ม แล้วก็ไม่หิวด้วย"
เธอนั่งเงียบๆ มองกองไฟเล็กๆนั้น แล้วก็ค่อยๆหลับตาลง
"มันคงจะดีกว่านี้ ถ้าข้ายังมีพี่ชายอยู๋ด้วย"
Slibter- จำนวนข้อความ : 41
Join date : 09/03/2013
Re: Demon Age : Deep Blue
-มาสคาเรด
"คิดจะไปไหนกัน! เจ้าหน้ากาก"
เธอปาดาบของ ฟาลาด ผ่านคุณไปปักกับบานประตูก่อนที่คูณจะได้เดินออกไป
"ก็บอกแล้วนี่ ว่ากลางคืนนะมันอันตรายกว่ากลางวัน ถ้ายังรักชีวิตก็ช่วยอยู่ที่นี้จนกว่าจะมีแสง แต่ถ้าไม่ข้าเองก็คงได้แค่เตือนเจ้า"
" . . . . . . . " ไม่ได้ส่งเสียงตอบรับกลับไปแล้วเดินออกไปข้างนอกอย่างระมัดระวัง
*อิงตามบทเดิม* เดินสำรวจให้เงียบที่สุด พยายามเดินในที่ที่อับมุมมอง ลัดเลาะไปตามซากปรักหักพัง ให้ตัวเองถูกตรวจพบได้น้อยที่สุด สังเกตทุกความเคลื่อนไหว หากมีอะไรขยับหรือไม่น่าไว้ใจให้ซ่อนตัวให้เร็วที่สุด เซฟตัวเองจากอันตรายที่จะเกิดขึ้น
Nutt- จำนวนข้อความ : 49
Join date : 09/03/2013
Re: Demon Age : Deep Blue
-ฟอลเลนไนท์ ฟาลาด
"ข้าต้องขอโทษเจ้าด้วยที่ปาดาบของเจ้าแบบนั้น ข้าแค่...ชั่งเถอะ"
"อืม...จะว่ายังไงดี ข้าเองก็รู้จักกับ Yoel ในฐานะของหนูทดลองด้วยกัน คงไม่ได้พูดอะไรกันมากนักหรอก แต่หลังจากที่ข้าฟื้นข้าก็ถูกส่งไปตัวไปทันที เลยไม่ได้เจอเขาอีก แต่ข้ารู้ได้เลยว่านั้นคือเขาแน่ๆ"
"ไม่ต้องหาเพื่อข้าหรอก ต่อให้ข้ากินไปมันก็ไม่อิ่ม แล้วก็ไม่หิวด้วย"
เธอนั่งเงียบๆ มองกองไฟเล็กๆนั้น แล้วก็ค่อยๆหลับตาลง
"มันคงจะดีกว่านี้ ถ้าข้ายังมีพี่ชายอยู๋ด้วย"
'ตามที่คาด... YOEL ไม่ใช่เทพหรืออะไรนั่นแต่แรกแล้ว... ก็แค่ผลลัพธ์ที่ผิดพลาดเท่านั้น'
"วันนี้พักเรื่องน่าปวดหัวไว้เท่านี้ก่อนดีกว่า ไว้มาต่อกันวันหลัง" เดินไปเอาดาบที่ถูกขว้างไปคืนมา แล้วเริ่มเดินค้นหาของที่พอใช้ได้เหมือนเดิม
หน้า 3 จาก 3 • 1, 2, 3
หน้า 3 จาก 3
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|